ข่าวสารคริปโต (CryptoNews)

ข่าวสารคริปโต (CryptoNews)

- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ลงนามในกฎหมายเพื่อเพิ่มงบ $1.2 ล้านล้าน เพื่อพัฒนาสาธารณูปโภคโดยไม่มีการแก้กฎหมายตามที่ตัวแทนจากอุตสาหกรรมคริปโตต้องการ เอกสารดังกล่าวระบุถึงความหมายเพิ่มเติมของคำว่า “นายหน้า” ทั้งนี้ นักขุดเหมืองคริปโต ผู้พัฒนากระเป๋าเงินคริปโต ผู้ให้บริการระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง และผู้เล่นอื่นๆ ในตลาดดิจิทัล อาจต้องรายงานกิจกรรมของผู้ใช้ของตนต่อหน่วยงานด้านภาษี โดยขึ้นอยู่กับการตีความคำว่า “นายหน้า” ดังกล่าว ชุมชนคริปโตยังกังวลถึงการแก้กฎหมายแผนสาธารณูปโภคนี้ในอนาคต ซึ่งจะกำหนดให้ผู้รับสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่ามากกว่า $10,000 ต้องยืนยันข้อมูลส่วนตัวของผู้ส่งสินทรัพย์ดังกล่าว

เอกสารกฎหมายดังกล่าวถูกวิจารณ์จากตัวแทนอุตสาหกรรมคริปโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอีลอน มัสค์ ประธานของเทสลา และแจ็ค ดอร์ซีย์ ผู้ก่อตั้งบริษัทชำระเงิน สแควร์ (Square) วุฒิสมาชิกบางส่วนเชื่อว่า ผู้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมคริปโตควรได้รับการยกเว้นจากกฎหมายดังกล่าว และบางส่วนเชื่อว่า นักขุดเหมืองคริปโตและผู้ขายฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์เท่านั้นที่ควรได้รับการยกเว้นจากการรายงานไปยังหน่วยงานด้านภาษี

- เน็ด ซีกัล ผู้อำนวยการด้านการเงินของทวิตเตอร์ ระบุว่า การลงทุนเงินสดของทวิตเตอร์ในเงินคริปโต “เป็นเรื่องที่ไม่เป็นเหตุเป็นผลในตอนนี้” เขาระบุว่า ทวิตเตอร์ต้องการลงทุนในเครื่องมือการเงินที่ผันผวนน้อยกว่า เช่น หลักทรัพย์ ก่อนหน้านี้ เน็ด ซีกัล ระบุว่า ทวิตเตอร์กำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการใช้บิทคอยน์ แต่บริษัทต้องตัดสินใจเพิ่มเติมอีก

เมื่อสิ้นเดือนกันยายน ทวิตเตอร์มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดมูลค่า $3,470 ล้าน เช่นเดียวกับการลงทุนระยะสั้นมูลค่า $3,940 ล้าน

ขณะเดียวกัน สแควร์ ซึ่งเป็นบริษัทชำระเงินที่ก่อตั้งโดยแจ็ค ดอร์ซีย์ ประธานบริหารของทวิตเตอร์ ยังคงถือเงินคริปโตสกุลเงินหลักนี้ในงบดุล “เราได้ซื้อบิทคอยน์ และดูเหมือนว่านี่จะไม่เพียงแสดงถึงความสนใจของเราเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้เกิดประโยชน์ทางการเงินในระยะยาวได้อีกด้วย” บริษัทสแควร์กล่าว

- แอนโธนี สการามุชชี ผู้ก่อตั้งบริษัทลงทุน สกายบริดจ์ แคปิตอล (SkyBridge Capital) คาดการณ์ว่า บิทคอยน์อาจมีมูลค่าถึง $500,000 “ได้โดยง่าย” โดยเขาอ้างอิงถึงจำนวนเหรียญบิทคอยน์ที่มีจำกัดและจำนวนนักลงทุนที่ร่ำรวยที่อาจสนใจเหรียญดังกล่าว เขาระบุว่า หากอ้างอิงจากเจพีมอร์แกนแล้ว มีเศรษฐีที่มีทรัพย์สินหนึ่งล้านดอลลาร์อย่างน้อย 49 ล้านคน แต่ทองดิจิทัลชนิดนี้มีเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น “คุณมีเหรียญบิทคอยน์ไม่พอสำหรับเศรษฐีทุกคนในสังคมของเรา เพื่อให้แต่ละคนมีบิทคอยน์อย่างน้อยหนึ่งเหรียญ” สการามุชชีกล่าว

เขาเห็นว่า ระดับราคาบิทคอยน์ในปัจจุบันยังคงเป็นโอกาสเริ่มต้นในการเข้าถึงสินทรัพย์ชนิดนี้ได้ และราคาของเงินคริปโตสกุลเงินแรกนี้จะแตะถึง $500,000 ภายในสิ้นปีค.ศ. 2024 หรือกลางปีค.ศ. 2025 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นจริงหากมีกระเป๋าเงินบิทคอยน์ถึง 1,000 ล้านกระเป๋าในช่วงเวลานั้น ตามการคาดการณ์ของบริษัทจัดการการลงทุน อาร์ค อินเวสต์ (Ark Invest)

- ทางการสหรัฐฯ จะขายเงินคริปโตที่ยึดมาได้เป็นเงิน $56 ล้าน เพื่อมอบให้เหยื่อของบิตคอนเนกต์ อดีตธุรกิจเงินคริปโตต้มตุ๋น กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า นี่คือ “การกู้คืนความเสียหายจากการฉ้อโกงเงินคริปโตภายในครั้งเดียวครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ”

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า “เกล็นน์ อาร์คาโร ผู้อำนวยการของบิตคอนเนกต์ และผู้สนับสนุนของเขา ซึ่งไม่มีผู้ใดที่ลงทะเบียนกับทางสำนักงานฯ ในฐานะนายหน้าหรือตัวแทน และไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายหน้าและตัวแทนที่ลงทะเบียน พวกเขาสนับสนุนการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงผ่านโครงการให้ยืมเงินสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย โดยใช้วิดีโอแนะนำที่พวกเขาเผยแพร่ในยูทูป”

เกล็นน์ อาร์คาโร ยอมรับผิดว่าได้หลอกลวงนักลงทุนในสหรัฐฯ และต่างประเทศ โดยทำเงินไปได้กว่า $2,000 ล้าน คำตัดสินจะมีในวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 2022 โดยอาร์คาโรอาจถูกจำคุกไม่เกิน 20 ปี

- แอนโดนี พอมพลิอาโน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทลงทุน มอร์แกน ครีก ดิจิทัล (Morgan Creek Digital) กล่าวว่า ในที่สุดแล้ว บริษัทแอปเปิ้ลจะอนุญาตให้มีการชำระเงินด้วยบิทคอยน์และเงินคริปโตสกุลเงินอื่นๆ ในอนาคต โดยเขาแสดงความเห็นต่อกรณีที่ทิม คุก ประธานบริหารของแอปเปิ้ล ยอมรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

พอมพลิอาโนเชื่อว่า เงินคริปโตจะไม่เป็นอุตสาหกรรมที่เป็นเอกเทศ และบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จะ “นำเงินคริปโตเข้าไปในสินทรัพย์และอุตสาหกรรมที่มีอยู่ทั้งหมด” ในอีกไม่ช้าก็เร็ว เขาเห็นว่า บริษัทเทคโนโลยีจะเข้าสู่อุตสาหกรรมเงินคริปโตมากขึ้นในอีก 10-20 ปีนี้ โดยจะนำผู้เชี่ยวชาญและผู้นำด้านเงินคริปโตมาเข้าร่วมธุรกิจด้วย

“การหารือเกี่ยวกับเงินคริปโตในสังคมใดๆ โดยไม่ต้องเสี่ยงถูกมองว่าเป็นพวก ‘บ้าหรือหลงทาง’ เป็นเรื่องปกติมากขึ้น การพูดคุยประเด็นนี้ไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงทางอาชีพอีกต่อไป” เขากล่าว

-มีเดียมาร์ค (MediaMarkt) บริษัทจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์สำหรับผู้บริโภคในยุโรป ได้รับผลกระทบจากไฮฟ์ (Hive) ไวรัสมัลแวร์เรียกค่าไถ่ โดยข้อมูลจากรีเทล ดีเทล (Retail Detail) ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อร้านค้าในเครือของมีเดียมาร์ค ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเนเธอร์แลนด์และเยอรมนี รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ 3,100 เครื่องของร้านค้าปลีกเหล่านี้ โดยในเบื้องต้น แฮคเกอร์เรียกร้องเงินค่าไถ่เป็นเงินบิทคอยน์มูลค่า $240 ล้าน แต่หลังจากทางบริษัทเจรจาแล้ว เงินค่าไถ่ถูกลดลงเหลือ $50 ล้าน

หมายเหตุ: มีเดียมาร์คมีร้านค้าปลีกกว่า 1,000 แห่งใน 13 ประเทศ มีลูกจ้างกว่า 53,000 คนและมียอดขายต่อปีกว่า 20,000 ล้านยูโร

- วิลลี วู ผู้สื่อข่าวและนักวิเคราะห์คริปโตชาวจีน ระบุว่า ขณะนี้บิทคอยน์ยังไม่พร้อมต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วและยังไม่พร้อมมีราคาสูงสุดเป็นสถิติใหม่ เขาระบุถึงปัจจัยสามประการที่ทำให้ราคาของเงินคริปโตสกุลเงินแรกนี้ยังไม่เพิ่มขึ้น

ปัจจัยแรกคือกิจกรรมเก็งกำไรเบ็ทคอยน์ที่อยู่ในระดับสูง วูระบุว่า แม้นักลงทุนระยะยาวจะยังคงเก็บสะสมเงินคริปโต แต่ส่วนมากยังคงเป็นไปเพื่อการเก็งกำไรในระยะสั้น

อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาบิทคอยน์ยังไม่พุ่งขึ้น ได้แก่ การเปิดตัวกองทุนรวมดัชนี ETF (exchange-traded fund) กองทุนแรกของสหรัฐฯ โดยอ้างอิงจากสัญญาซื้อขายบิทคอยน์ล่วงหน้า วูระบุว่า ขณะนี้นักลงทุนที่เป็นสถาบันส่วนใหญ่นิยมซื้อกองทุนรวมหุ้นและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแทนการซื้อบิทคอยน์โดยตรง

ทั้งนี้ กองทุนรวมดัชนี ETF ที่อ้างอิงสัญญาซื้อขายบิทคอยน์ล่วงหน้านี้ เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม สินทรัพย์ของกองทุนนี้มีมูลค่าเกิน $1,000 ล้านเพียงสองวันหลังเริ่มการซื้อขาย ทำให้กองทุนนี้ทุบสถิติอัตราการเติบโตที่ $1,000 ล้านซึ่งเป็นสถิติที่อยู่มาก่อนหน้านี้ 18 ปี

ปัจจัยที่สามได้แก่ ความคาดหวังที่เป็นบวกเกินไปของนักลงทุน ที่มั่นใจว่าบิทคอยน์และตลาดเงินคริปโตทั้งหมดจะเติบโตมากกว่านี้ “เมื่อใดก็ตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่มีแนวโน้มกระทิงมากเกินไป ราคาจะพุ่งขึ้นไปยากมากเนื่องจากมีแต่ผู้ต้องการเก็งกำไรในตลาด” วูอธิบาย

- นักลงทุนคริปโตที่ไม่เปิดเผยตัวตน ซื้อบิทคอยน์ 2,200 เหรียญเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2013 ด้วยเงินราว $330,000 และเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน เขาถอนเงินคริปโตจากกระเป๋าเงินของเขาที่ไม่มีการดำเนินธุรกรรมใดๆ มาแปดปี การลงทุนของนักลงทุนคริปโตรายนี้เพิ่มขึ้นมา 445 เท่าในช่วงเวลาดังกล้าว และมูลค่าของสินทรัพย์อยู่ที่เกือบ $150 ล้าน

- ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ เริ่มมีการคาดการณ์ว่า ราคาบิทคอยน์อาจพุ่งถึง $100,000 ภายในเดือนธันวาคม ไมค์ แม็คโกลน นักยุทธศาสตร์ของบลูมเบิร์ก เคยสนับสนุนการคาดการณ์ดังกล่าว โดยเขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักวิเคราะห์ที่สามารถคาดการณ์ทิศทางบิทคอยน์ได้อย่างแม่นยำเมื่อสามปีที่แล้ว รวมถึงคาดการณ์ราคาบิทคอยน์ที่เพิ่มขึ้นที่ $20,000 ภายในสิ้นปีค.ศ. 2020

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนก็ยังกังขาถึงการคาดการณ์นี้ “เราจะไม่แตะราคา $100,000 หรือ $150,000 ภายในไตรมาสที่สี่นี้ หรือไตรมาสที่หนึ่งของปีหน้า” นิโคลัส เมอร์เทน นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง กล่าว “ผมขอโทษนะครับ แต่ผมต้องบอกว่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนเข้าใจผิด บิทคอยน์พุ่งเป้าเติบโต แต่เราจะได้เห็นราคาราว $100,000 หรือ $150,000 ภายในฤดูใบไม้ร่วงของปีหน้า”

- ทางการนครไมอามีของสหรัฐฯ ตัดสินใจแจกเงินคริปโตมูลค่า $21 ล้านให้แก่ประชาชนในเมือง ทำให้ชาวไมอามี 442,000 คนแต่ละคนจะได้รับบิทคอยน์ราว 0.0007 เหรียญ ซึ่งมีมูลค่าราว $47

ฟรานซิส ซัวเรส นายกเทศมนตรีนครไมอามี อธิบายว่า เขาดำเนินการดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนคุ้นเคยกับบิทคอยน์ เขาระบุว่า การสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัลให้ประชาชนทุกคนเป็นภาระทางเทคนิคที่ค่อนข้างหนัก แต่เขาหวังว่าตลาดเงินคริปโตจะเข้ามามีส่วนช่วย โดยหลังจากนั้นจะมีการสร้างระบบลงทะเบียนดิจิทัลเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดการฉ้อโกงหลอกลวง

นอกจากนี้ ฟรานซิส ซัวเรส ยังระบุในบทสัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กด้วยว่า การจ่ายเงินเดือนให้พนักงานรัฐเป็นบิทคอยน์เป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญลำดับแรกๆ ของนครไมอามี
.
กลุ่มนักวิเคราะห์ NordFX
.
สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ th.support@nordfx.com #NORDFX #FOREX #TRADE #PROFIT #เทรด #กำไร #ทอง #ข่าวสาร #cryptocurrencynews #Bitcoin #News