ข่าวสารคริปโต (CryptoNews)

ข่าวสารคริปโต (CryptoNews)

- บิทคอยน์มีราคาสูงเป็นสถิติใหม่ โดยมีราคาที่ $68,420 เมื่อวันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน เช่นเดียวกับอีธีเรียมที่มีราคาสูงเป็นสถิติใหม่ที่ $4,830 มูลค่ารวมในตลาดคริปโตสูงสุดอยู่ที่ $2.947 ล้านล้าน โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า ราคาเหรียญดิจิทัลที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลจากการขาดแคลนเหรียญขณะที่ทั่วโลกให้ความสนใจกับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น

- สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ มหาเศรษฐีพันล้าน กล่าวระหว่างการประชุมที่นครบอสตันว่า มูลค่าของทรัพย์สินใดๆ ก็ตามบนโลกนี้ ทั้งเงินคริปโต หุ้นมีม งานศิลปะ ไวน์ หลักทรัพย์ สามารถลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อใดก็ได้ เพราะฉะนั้นเงินคริปโตจึงไม่ใช่สินทรัพย์ประเภทเดียวที่อยู่ในภาวะฟองสบู่ ดรัคเคนมิลเลอร์ระบุว่า สถานการณ์ปัจจุบันของตลาดเงินคริปโตนั้นต่างจากภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ดอตคอม (ภาวะเก็งกำไรเกินควรของตลาดหลักทรัพย์ภาคเทคโนโลยีช่วงปีค.ศ. 1997-2000) โดยเขาระบุว่า ภาวะที่เคยเกิดขึ้นครั้งนั้นมีผลต่อผู้คนจำนวนน้อยกว่าผู้คนในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลทุกวันนี้อย่างมาก

ก่อนหน้านี้ บิล มิลเลอร์ นักลงทุนชาวอเมริกันชื่อดัง กล่าวว่า บิทคอยน์ไม่ได้เป็นฟองสบู่ แต่ความผันผวนของสินทรัพย์ประเภทนี้เป็นราคาที่นักลงทุนต้องจ่ายเพื่อประโยชน์ที่ได้กลับคืนมา

- อีริค อดัมส์ ว่าที่นายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์กที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้ง ระบุในบทความของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เรียกร้องให้โรงเรียนท้องถิ่นเตรียมสอน “วิธีคิดใหม่” ต่อเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลให้นักเรียน นักการเมืองผู้นี้ระบุว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งรุ่นเยาว์มีความตระหนักรู้ต่อประเด็นดังกล่าวน้อย “เวลาผมพูดเรื่องบล็อกเชนกับบิทคอยน์ คนหนุ่มสาวมักหยุดผมและถามว่า ‘มันคืออะไรเหรอ’” อดัมส์ระบุว่า สินทรัพย์ดิจิทัลเป็น “วิธีใหม่ในการชำระสินค้าและบริการทั่วโลก” และสนับสนุนให้ใส่หัวข้อนี้ในหลักสูตรการเรียน

ว่าที่นายกเทศมนตรีผู้นี้ระบุว่า มหานครนิวยอร์กจะต้องรักษาตำแหน่งศูนย์กลางของนวัตกรรมให้ได้ โดยเขาวางแผนกำหนดให้ธุรกิจท้องถิ่นต้องรับเงินบิทคอยน์และเงินคริปโตสกุลอื่นๆ เขายังรับปากด้วยว่าจะรับเงินเดือนสามครั้งแรกเป็นเงินบิทคอยน์


- ราหุล ไรย์ ผู้จัดการกองทุนเงินคริปโต บล็อกทาวเวอร์ แคปิตอล (BlockTower Capital) เชื่อว่า ความอเนกประสงค์ของบล็อกเชนอีธีเรียมจะเป็นปัจจัยหลักที่จะดึงดูดทั้งนักพัฒนาและนักลงทุน เขามั่นใจว่าหากอีธีเรียมสามารถเริ่มต้นระบบการเงินโลกครั้งใหม่ได้ ในอนาคตตลาดอีธีเรียมจะใหญ่กว่าตลาดบิทคอยน์มาก เศรษฐีเงินคริปโตผู้นี้ยังคาดการณ์ด้วยว่า อีธีเรียมอาจเป็นเงินคริปโตสกุลแรกที่มีมูลค่ารวมหลายล้านล้านดอลลาร์ภายในกลางปีค.ศ. 2022

เมื่อเดือนเมษายน นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน ธนาคารลงทุนสัญชาติอเมริกัน ก็มีความเห็นในทำนองเดียวกัน โดยพวกเขาเห็นว่า บิทคอยน์เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่แข่งกับโลหะมีค่าได้ และเป็นสินทรัพย์ที่เก็บรักษามูลค่าได้ แต่ในระยะยาวบิทคอยน์อาจต้องเปิดทางให้อีธีเรียม ซึ่งเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจเงินคริปโต

- ทิม คุก ประธานบริหารของบริษัทแอปเปิ้ล ระบุว่า เขามีเงินคริปโตเพื่อทำให้พอร์ตลงทุนของเขามีความหลากหลาย โดยเขากล่าวว่า เขาสนใจทรัพย์สินดิจิทัล “มาซักพักหนึ่ง” แล้ว และค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซีอีโอผู้นี้ระบุว่า แอปเปิ้ลจะไม่ลงทุนในเครื่องมือการเงินชนิดนี้และไม่มีแผนให้บริการที่เกี่ยวข้อง หรือใช้เงินคริปโตเป็นทางเลือกในการชำระสินค้าหรือบริการสำหรับลูกค้าของแอปเปิ้ล

ทิม คุก ระบุว่า “มีอย่างอื่นที่แอปเปิ้ลกำลังจับตามองดูอยู่” โดยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเขาหมายถึงอะไร อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แอปเปิ้ลเปิดรับสมัครงานผู้จัดการพัฒนาธุรกิจที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเงินคริปโตห้าปี เพื่อนำโครงการในส่วน “การชำระเงินทางเลือก”

- หน่วยงานกำกับดูแลสวีเดนเชื่อว่า การทำเหมืองบิทคอยน์และเงินคริปโตอื่นๆ โดยใช้อัลกอริธึม Proof-of-Work จะทำให้สวีเดนและสหภาพยุโรปไม่ปฏิบัติตามความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทางการสวีเดนระบุว่า กระบวนการทำเหมืองเงินคริปโตทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถูกปล่อยในชั้นบรรยากาศถึง 120 ล้านตันต่อปี ซึ่งเท่ากับคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของเที่ยวบินไปกลับ ไทย-สวีเดน 100 ล้านเที่ยว

หน่วยงานกำกับดูแลเรียกร้องให้มีการห้ามทำเหมืองสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยวิธีที่ใช้พลังงานสูง ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เชื่อว่าการใช้พลังงานหมุนเวียนทำเหมืองเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล เนื่องจาก “พลังงานชนิดนี้เป็นที่ต้องการเร่งด่วนเพื่อ […] ผลิตแบตเตอรี่ขนานใหญ่และทำให้ภาคการขนส่งหันมาใช้พลังงานไฟฟ้า” ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ระบุว่า ไฟฟ้าที่ใช้ทำเหมืองบิทคอยน์หนึ่งเหรียญ สามารถใช้ขับขี่ยานพาหนะไฟฟ้าขนาดกลางได้ 1.8 ล้านกิโลเมตร

-แพลตฟอร์มวิเคราะห์ตลาดเงินคริปโต Santiment ระบุว่า กระแส “กระทิงล้วน” ต่อบิทคอยน์ยังคุกรุ่นในแวดวงนักลงทุนรายย่อย โดยอ้างอิงถึงอินดิเคเตอร์บิทคอยน์ที่อยู่นอกเครือข่ายบล็อกเชน นักวิเคราะห์กล่าวว่า กระแสดังกล่าวมักไม่เอื้ออำนวยต่อเงินคริปโต

Santiment ระบุว่า ตลาด “ไว้ใจบิทคอยน์อย่างไม่เป็นเหตุเป็นผล” ซึ่งอาจทำให้เกิดการปรับฐานราคาได้

นักเทรดรายย่อยมักตื่นเต้นไปกับศักยภาพของบิทคอยน์ แต่สำหรับนักเทรดรายใหญ่หรือ “วาฬบิทคอยน์” นั้น สถานการณ์อาจไม่ตรงไปตรงมานัก โดยในด้านหนึ่ง ปริมาณเหรียญในที่อยู่ที่มีบิทคอยน์ 100-10,000 เหรียญนั้น มีบิทคอยน์ลดลงเกือบ 60,000 เหรียญภายในช่วงสิบวันที่ผ่านมา แต่ในอีกด้านหนึ่ง ที่อยู่ที่มีบิทคอยน์มากกว่า 10,000 เหรียญกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ปรากฎการณ์ดังกล่าวอาจบ่งชี้ว่า วาฬบิทคอยน์รายใหญ่กำลังไล่ซื้อเหรียญจากนักเทรดรายย่อยอยู่

- เมื่อเดือนกันยายน มอร์แกน สแตนลีย์ ธนาคารลงทุนยักษ์ใหญ่ จัดตั้งแผนกวิเคราะห์เงินคริปโต และได้ตีพิมพ์แนวทางสู่ตลาดเงินคริปโตสำหรับลูกค้ารายใหญ่ นักกลยุทธ์ของธนาคารจัดทำบทวิเคราะห์อย่างละเอียดของกิจกรรม ภาคส่วน และแนวโน้มต่างๆ ของอุตสาหกรรมคริปโตที่กำลังถูกจับตามองอย่างยิ่ง

เนื่องจากมูลค่ารวมของเงินคริปโตในตลาดพุ่งสูงกว่า $2.8 ล้านล้าน และนักลงทุนสนใจระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง (Defi) เหรียญ NFT และเหรียญดิจิทัลที่มีมูลค่าค่อนข้างคงที่ (stablecoin) เพิ่มมากขึ้น มอร์แกน สแตนลีย์ จึงเชื่อว่า ปัจจัยดังกล่าวจะเร่งให้เริ่มมีการกำกับดูแลของรัฐในตลาดเงินคริปโตเร็วขึ้น

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มอร์แกน สแตนลีย์ เปิดตัวกองทุนบิทคอยน์สามกองทุน โดยกำหนดให้ปัจเจกบุคคลที่ต้องการเข้าร่วมกองทุนต้องฝากเงินอย่างต่ำ $2 ล้าน และสถาบันการลงทุนที่ต้องการเข้าร่วมต้องฝากเงินอย่างต่ำ $5 ล้าน

- นักวิเคราะห์ของตลาดแลกเปลี่ยนเงินคริปโต คราเคน (Kraken) สรุปว่า วงจรกระทิงปัจจุบันของบิทคอยน์อาจทำราคาสูงสุดที่ $96,000 งานวิจัยของนักวิเคราะห์กลุ่มนี้ระบุว่า ไตรมาสที่สี่ในขณะนี้มีความเคลื่อนไหวคล้ายไตรมาสที่สี่เมื่อปีค.ศ. 2017 (ค่าสหสัมพันธ์อยู่ที่ 0.88) ซึ่งได้ผลตอบแทนที่ +220% พวกเขายังคาดการณ์ด้วยว่า ราคาบิทคอยน์จะขึ้นไปแตะสูงสุดราว $300,000

บททบทวนที่เผยแพร่โดยคราเคนยังระบุด้วยว่า เดือนพฤศจิกายนมักเป็นเดือนที่ผันผวน ทำให้ผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนต่อเดือนสูงที่สุด หากราคาบิทคอยน์หยุดที่แนวต้านที่ราว $70,000 ก็อาจมีการปรับฐานได้ อย่างไรก็ตาม การปรับฐานจะทำให้ราคาบิทคอยน์ลดลงไม่เกิน 20%

- วิลลี วู นักวิเคราะห์ ประเมินราคาของบิทคอยน์ว่า ราคาของเงินคริปโตสกุลดังกล่าวน่าจะอยู่ในโซน $50,000 - $60,000 เขาระบุว่า บิทคอยน์มีมูลค่ารวมกัน $1 ล้านล้าน ราคาบิทคอยน์แต่ละเหรียญจึงไม่น่าต่ำไปกว่าโซนดังกล่าว ทั้งนี้ เขาอ้างอิงข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์กลาสโนด (Glassnode)

- นักวิเคราะห์เงินคริปโตที่เป็นที่รู้จักในนาม อัลท์คอยน์ เชอร์พา (Altcoin Sherpa) ระบุว่า อัลท์คอยน์จะไม่ให้ผลลัพธ์ที่สูงตามที่คาดไว้ในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากมีอัตราการแลกเปลี่ยนบิทคอยน์แบบกระทิง “เล็งไปที่คู่ altcoin/BTC ที่ราคาอาจตกลงหากบิทคอยน์เริ่มเคลื่อนไหว” เขาเขียน “ผมเชื่อว่าฤดูอัลท์คอยน์ยังมาไม่ถึง อัลท์คอยน์ยังมีเวลาพิสูจน์ตัวเอง แต่หลังจากกระแสบิทคอยน์ซาลงแล้ว”

นักวิเคราะห์ผู้นี้ระบุว่า บิทคอยน์มีราคาต่ำสุดที่สูงขึ้น อยู่ที่ราว $60,000 และแม้ราคาอาจตกลงไปในช่วงเวลาสั้นๆ ได้ แต่เขาก็คาดว่าสินทรัพย์ประเภทนี้จะโตขึ้นจากระดับปัจจุบันเป็นอย่างมาก “ราคาอาจตกลงไปที่ $55,000 เป็นช่วงสั้นๆ แต่ผมไม่การเคลื่อนไหวเล็กน้อยพวกนี้หรอก ผมเดินหน้าสะสมบิทคอยน์ต่อไป และเมื่อเหรียญเหล่านี้เคลื่อนไหว มันจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว”

- เบนจามิน โคเวน นักยุทธศาสตร์คริปโต เชื่อว่า บิทคอยน์จะไม่เติบโตอย่างรวดเร็ว “เราเริ่มบิทคอยน์ที่ราคาราว $28,000- $29,000 แล้วนั่นคือเมื่อต้นปีค.ศ. 2021” โคเวนเขียน “เราเห็นอะไรบ้างจนถึงตอนนี้? ไม่ได้เห็นอะไรมากใช่ไหม? จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นภายในสิ้นปีไหม? ก็อาจเป็นไปได้นะ แต่ผมไม่มั่นใจว่าปีค.ศ. 2021 จะเป็นปีที่บิทคอยน์เติบโต”

ขณะที่ราคาสูงสุดและต่ำสุดในรอบปีของบิทคอยน์อาจดูต่างกันมาก แต่โคเวนกลับเห็นว่า ผู้ถือบิทคอยน์อาจไม่ได้ยินดีกับกำไรที่ได้เท่าใดนัก “ดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับบิทคอยน์ในปีค.ศ. 2021 สิครับ ไม่มีอะไรพิเศษเลย บิทคอยน์ทำกำไรได้ราว 130% และผมมั่นใจว่าผู้ถือเหรียญส่วนใหญ่จะไม่แม้แต่ลุกจากเก้าอี้เพื่อให้ได้ 130% เลยด้วยซ้ำ” “เรากลับไปที่ราคาสูงสุดของช่วงนั้น ผู้ถือบิทคอยน์อาจรู้สึกยินดีบ้างเมื่อช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม ค.ศ. 2021” โคเวนกล่าวต่อ “เป็นไปได้ว่าราคาจะกระโดดอย่างแรง แต่ข้อมูลชี้ให้เห็นว่า วงจรนี้จะอยู่จนถึงอย่างน้อยในปีค.ศ. 2022 เมื่อมองกลับไปที่ปีค.ศ. 2021 แล้ว ผมว่าเวลาส่วนใหญ่ของปีถูกใช้ไปกับการเก็บสะสมเหรียญอีกรอบ”


- นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังที่มีชื่อเล่นว่า แพลนบี (PlanB) ระบุว่า ราคาบิทคอยน์อาจพุ่งขึ้น 700% ในช่วงต้นปีค.ศ. 2022 “หากคุณดูสัญญาณที่มากับห่วงโซ่ (chain) ตอนนี้ ผมกล้าพูดได้เลยว่า ราคาจะพุ่งไปสุงสุดในเกือบหกเดือน ซึ่งเป็นช่วงสิ้นสุดไตรมาสแรกของปีหน้า” เขาระบุ “ผมเชื่อว่า เราจะมีอัตราราคาบิทคอยน์ที่ $100,000 ในสิ้นปี และสกุลเงินนี้อาจเติบโตต่อไปตามโมเดล X (S2FX) และขึ้นไปแตะระดับ $288,000 และอาจไปต่อได้มากกว่านั้น ผมคงไม่แปลกใจหากผมเห็นราคาพุ่งขึ้นไปที่ $400,000 - $500,000 ในไตรมาสแรกและไตรมาสที่สองของปีหน้า”

แพลนบีมองว่า ในระยะยาว บิทคอยน์จะมีราคาสูงขึ้นแบบไฮเพอร์โบลา

“ตอนนี้คนแก่ถือเงิน อสังหาริมทรัพย์และทองเป็นของที่จับต้องได้ ไม่ใช่ของดิจิทัล ภาวะขาดแคลนดิจิทัลเป็นปรากฎการณ์รุ่นใหม่ที่ผมมั่นใจว่าจะเกิดขึ้นแน่นอน ในโมเดล (S2FX) ของผม ผมเห็นว่ามีความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างภาวะขาดแคลนและราคา ผมคิดว่าภาวะขาดแคลนเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงนี้ และบังคับให้ผู้คนต้องใช้เงินลงทุน (กับดิจิทัล) มากขึ้น”
.
กลุ่มนักวิเคราะห์ NordFX
.
สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ th.support@nordfx.com #NORDFX #FOREX #TRADE #PROFIT #เทรด #กำไร #ทอง #ข่าวสาร #cryptocurrencynews #Bitcoin #News