Toggle navigation
ลงประกาศฟรี
!
สมัครสมาชิก
หรือ
เข้าสู่ระบบ
หน้าหลัก
การศึกษา
อื่นๆ
บทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซีประจำวันที่ 25-29 ตุลาคม 2021
/ กรุงเทพมหานคร
25 ต.ค. 2564 เวลา 15:04 น.
เก็บไว้ดูภายหลัง
ราคา
10
บาท
เข้าชม 344 ครั้ง
รายละเอียดสินค้า
บทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซีประจำวันที่ 25-29 ตุลาคม 2021
ตุลาคม 23, 2021
EUR/USD: ในสภาวะแห่งความไม่แน่นอน
ในบทวิเคราะห์สัปดาห์ที่แล้ว นักวิเคราะห์ 20% เห็นด้วยกับแนวโน้มขาลงของคู่ EUR/USD โดย 50% โหวตว่าราคาคู่นี้จะขยับขึ้น และ 30% มีท่าทีเป็นกลาง ในที่นี้ 80% ของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ทิศเหนือและทิศทางด้านข้างคือกลุ่มที่ทำนายได้ถูกต้อง หลังจากราคาเปิดตลาดที่ 1.1600 ราคาก็ได้ขยับในตอนแรกไปที่ 1.1668 จากนั้นลงมาที่ 1.1616 และขยับออกด้านข้างในกรอบนี้ ภายหลังถ้อยแถลงโดยประธานธนาคารเฟดเมื่อวันศุกร์ ราคาก็ได้ขยับลงมาด้านล่างของกรอบซื้อขาย แต่ปิดตลาดเกือบถึงโซนตรงกลางที่ 1.1643
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มลดมาตรการซื้อสินทรัพย์ แต่กล่าวเสริมด้วยว่านี่ยังไม่ถึงเวลาที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในมุมมองของเขา อัตราเงินเฟ้อสูงมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อต่อไปจนถึงปีหน้า แต่ธนาคารกลางฯ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาสู่เป้าหมาย 2% ในที่สุด
ตัวเลขสถิติจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้อาจถือว่าเป็นปัจจัยบวก เนื่องจากมีการปรับทบทวนสถิติก่อนหน้าครั้งใหญ่เกี่ยวกับยอดขอรับสวัสดิการว่างงานจาก 2.593K เป็น 2.603K ดังนั้น จำนวนสถิติปัจจุบันที่ 2.481K จึงแสดงแนวโน้มที่ลดลง 122K เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ 118K
การคำนวณที่ “ซับซ้อน” ดังกล่าวช่วยปรับปรุงยอดขอรับสวัสดิการเบื้องต้นให้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เมื่อปรับทบทวนผลลัพธ์ในครั้งก่อนหน้า สถิติลดลงมา 6K แทนที่จะเพิ่มขึ้น 2K
อย่างไรก็ตาม สถิติที่เป็นบวกทั้งหมดนี้ไม่ช่วยดอลลาร์เท่าไรนัก ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงที่ที่ปริมาณ 2.15% ในขณะที่ยังมีความเป็นไปได้ที่ผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.0%
ดัชนี Markit PMI ในภาคการผลิตของเยอรมนีและยูโรโซนที่อ่อนแอกว่าเกือบจะช่วยกดราคา EUR/USD ลงมาเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม แต่ผลปรากฏว่ามีความซับซ้อนเกิดขึ้น ดัชนียุโรปติดลบจาก 56.2 เป็น 54.3 จากที่คาดการณ์คือ 55.2 แต่ดัชนีของเยอรมนี ประเทศหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุโรปกลับบวกเขียวที่ 58.2 จากการคาดการณ์ที่ 56.2
ข้อเท็จจริงที่ตลาดแรงงานสหรัฐฯ พัฒนาขึ้นต่อเนื่องควรจะเป็นผลดีต่อค่าเงินดอลลาร์ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารเฟด ได้กล่าวเน้นย้ำหลายครั้งว่า มาตรการกระตุ้นทางการเงิน (QE) มีไว้เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดแรงงาน ดังนั้นจึงไม่มีอะไรขัดขวางธนาคารฯ จากการจำกัดมาตรการกระตุ้นทางการเงินในอนาคตอันใกล้
แล้วเราควรคาดการณ์อะไรกับ EUR/USD ในอนาคตอันใกล้นี้? ในขณะที่ออสซิลเลเตอร์ 55% บนกรอบ D1 ให้สัญญาณสีแดง 15% สีเขียว และ 30% เป็นสีเทากลางเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภาพรวมในสัปดาห์นี้เปลี่ยนไป ในครั้งนี้ 50% ของอินดิเคเตอร์ชี้ไปทางทิศเหนือ 20% ให้สัญญาณเป็นกลาง 15% ชี้ลงทิศใต้ และ 15% ที่เหลือชี้ว่าราคาอยู่ในช่วง overbought สำหรับอินดิเคเตอร์เทรนด์ ผลการวิเคราะห์มาจากการเคลื่อนที่ด้านข้างในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้สรุปผลเท่ากันที่ 50% ต่อ 50%
นักวิเคราะห์เสียงข้างมากส่วนใหญ่คาดว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นภายในสิ้นปี แต่ความเห็นของพวกเขาแทบจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเท่า ๆ กันสำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ โดยผู้เชี่ยวชาญ 45% โหวตให้กับแนวโน้มกระทิง เช่นเดียวกันกับแนวโน้มตลาดหมี และ 10% มีท่าทีเป็นกลาง
ระดับแนวรับ คือ 1.1615, 1.1585, 1.1560, 1.1520, 1.1485 และ 1.1450 ส่วนระดับแนวต้าน ได้แก่ 1.1670 1.1715, 1.1800, 1.1910.
สำหรับเหตุการณ์ในสัปดาห์หน้านี้จะมีการประกาศรายงานเรื่องสินเชื่อของยูโรโซนในวันอังคารที่ 26 ตุลาคม ส่วนดัชนีคำสั่งซื้อสินค้าทุนและสินค้าคงทนจะประกาศในสหรัฐฯ ในวันพุธที่ 27 ตุบาคม เราจะได้จับตาดูสถิติเศรษฐกิจมหภาคอีกหลายชุดในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ไม่ว่าจะเป็นดัชนีตลาดผู้บริโภค และสถิติ GDP จากยูโรโซน เยอรมนี และสหรัฐฯ นอกจากนี้จะมีการจัดการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 28 ตุลาคม ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมคือ 0% ดังนั้น งานแถลงข่าวที่ตามมาและความเห็นจากผู้บริหารธนาคารกลางยุโรปเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินจะเป็นที่น่าให้ความสนใจมากกว่า
GBP/USD: ยูโรไปทางไหน ปอนด์ไปทางนั้น
กราฟ GBP/USD สัปดาห์ที่แล้วมีความคล้ายกับกราฟ EUR/USD เป็นอย่างมาก: การเคลื่อนที่ด้านข้างโดยฝั่งกระทิงได้เปรียบกว่าในระดับหนึ่ง และราคาปิดตลาดเหนือระดับที่เริ่มต้นคือ 1.3758 ซึ่งการเคลื่อนที่เป็นผลมาจากการขาดปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญจากอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก รวมถึงสถิติจากสหราชอาณาจักรเองด้วยเช่นกัน
อัตราการเติบโตของราคาผู้บริโภคสหราชอาณาจักรชะลอตัวจาก 3.2% เหลือ 3.1% ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อนักลงทุนที่หวาดกลัวต่อภาวะเงินเฟ้อรอบโลก อย่างไรก็ตาม ตลาดแทบจะไม่ตอบสนองต่อตัวเลขเหล่านี้ โดยตลาดจับตาดูราคาก๊าซอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในขณะนี้ วิกฤติพลังงานกำลังเป็นภัยสำคัญต่อทั้งยุโรป รวมถึงสหราชอาณาจักรที่แยกตัวออกมา แน่นอนว่าภาวะเงินเฟ้อมีความสำคัญมาก แต่ประเทศกำลังเดินเส้นทางที่ตามรอยยูโรโซนและสหรัฐฯ ซึ่งเศรษฐกิจนั้นตามมาด้วยการเติบโตที่แข็งแกร่งและแนวโน้มขาลงเล็กน้อย
ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจ Markit (PMI) ในภาคบริการของสหราชอาณาจักรซึ่งประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม ปรับขึ้นจาก 55.4 เป็น 58.0 จากการคาดการณ์ที่ลดลง แต่ก็ไม่ได้ช่วยหนุนเงินปอนด์ ในส่วนดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ผู้กล่าวถ้อยแถลงไม่นานก่อนตลาดปิดทำการ ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเทียบกับทั้งยูโรและปอนด์อังกฤษ
ปอนด์อังกฤษแตกต่างไปจากค่าเงินยูโรตรงที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน และสิ่งนี้ส่งผลต่อการวิเคราะห์ของอินดิเคเตอร์บนกรอบ D1 ซึ่งในที่นี้ฝั่งสัญญาณสีเขียวเป็นฝ่ายได้เปรียบ ในด้านออสซิลเลเตอร์ฝั่งสีเขียวอยู่ที่ 55% ส่วน 25% เป็นสีเทา และสัญญาณ 20% ชี้ว่าราคาอยู่ในโซน overbought ในส่วนอินดิเคเตอร์เทรนด์ 60% ชี้ไปทางทิศเหนือ ส่วน 40% ชี้ไปทางทิศใต้
ในส่วนของความเห็นผู้เชี่ยวชาญยังไม่มีความได้เปรียบที่ชัดเจน: 35% โหวตให้กับแนวโน้มขาขึ้น 25% โหวตขาลง และ 40% โหวตให้กับแนวโน้มด้านข้าง
ระดับแนวรับในที่นี้อยู่ที่ระดับ 1.3740, 1.3675, 1.3600, 1.3575, 1.3525 และ 1.3400 ระดับแนวต้านและเป้าหมายของฝั่งกระทิง ได้แก่ 1.3770, 1.3810, 1.3835, 1.3900 และ 1.4000
USD/JPY: กลับมาสู่ปี 2017
USD/JPY ทำระดับสูงสุดในรอบสี่ปีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ระดับ 114.70 ซึ่งจุดที่ราคาเคยขยับถึงเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2017 หลังจากนั้นความกะตือรือร้นของฝั่งกระทิงก็อ่อนแรงลง และราคาคู่นี้ก็ได้กลับมาสู่ระดับเมื่อช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า
ในขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าต่อยูโรและปอนด์อังกฤษตั้งแต่ถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารเฟด เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ดอลลาร์กลับอ่อนค่าลงเล็กน้อยเทียบกับเงินเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ส่งผลให้ราคาคู่นี้ปิดตลาดที่บริเวณ 113.42
อย่างที่เราทราบกันดี การเคลื่อนที่ของคู่นี้ได้รับอิทธิพลเป็นอย่างมากจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งขยับอยู่แถวบริเวณ 2.15% ในตอนนี้ แต่หากอัตราผลตอบแทนปรับสูงขึ้น เราจะได้เห็น USD/JPY ผันผวนขึ้นรอบใหม่
ในขณะนี้ นักวิเคราะห์ 65% คาดว่าราคาคู่นี้จะกลับมาในตอนแรกที่ระดับ 113.00 และจากนั้นจะลดลงไปยังโซน 111.00-112.00 ภายในปลายเดือนพฤศจิกายน ส่วนผู้เชี่ยวชาญ 35% ที่เหลือยึดติดกับมุมมองในทางตรงกันข้าม โดยคาดการณ์ว่าราาจะทำระดับสูงสุดต่อไปในรอบหลายปี และราคาอาจขึ้นต่อไปที่ช่วง 115.00-116.00
ระดับแนวต้านในที่นี้ ได้แก่ 114.45, 114.70 และ 115.50 ส่วนเป้าหมายระยะยาวของแนวโน้มกระทิง คือ ระดับสูงสุดของเดือนธันวาคม 2016 ที่ 118.65 และมีแนวรับที่ 113.25, 112.00 และ 111.65
สำหรับเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้ เราอาจเน้นถึงการประชุมของธนาคารแห่งชาติญี่ปุ่นซึ่งจะจัดขึ้นในวันเดียวกันกับการประชุมของธนาคารกลางยุโรป ในวันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มที่สูงที่การประชุมครั้งนี้จะมีข่าวน่าประหลาดใจใด ๆ และอัตราดอกเบี้ยจะยังคงติดลบเหมือนเดิมที่ -0.1%
คริปโตเคอเรนซี: $66,925: สถิติสูงสุดใหม่ของบิทคอยน์
บิทคอยน์ทำสถิติ $64,850 เมื่อวันที่ 14 เมษายน ตามมาด้วยการย่อตัวลง 55% มาที่ $29,230 และในตอนนี้ก็ถึงช่วงที่นักลงทุนคริปโตเฝ้ารอคอย หลังจากช่วงเวลาแห่งความกังวลและความคาดหวังหลายเดือน ราคา BTC/USD ไม่เพียงจะฟื้นตัวจากที่ทุบราคาลงไปเท่านั้น แต่ยังทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ $66,925 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ในส่วน Ethereum ก็ทำระดับสูงสุดใหม่เช่นกัน ETH/USD ที่ระดับ $4,363
นักวิเคราะห์กล่าวว่าเหตุผลที่ราคาขึ้นในรอบนี้มีสองประการคือ อันดับแรกเป็นการเปิดตัวกองทุน Bitcoin ETFs (กองทุนรวมที่ซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์) ในตอนแรก คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติกองทุนบิทคอยน์ฟิวเจอร์ส ETF จาก ProShares ตามมาด้วยการอนุมัติใบขออนุญาตของ VanEck เพื่อเปิดกองทุนประเภทเดียวกัน
เหตุผลประการที่สองและเหตุผลหลักของแนวโน้มกระทิงนี้ คือ ความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ ผู้เชี่ยวชาญจาก JPMorgan Chase เครือบริษัทธนาคารขนาดใหญ่ที่สุด ชี้ว่าราคาทองคำจริงนั้นแทบจะไม่ตอบสนองต่อความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อไม่เหมือนกับทองคำดิจิทัล จึงแสดงให้เห็นถึงบทบาทใหม่ของบิทคอยน์ในฐานะเครื่องมือในการคุ้มครองนักลงทุนและสนับสนุนภาพรวมแนวโน้มกระทิงของ BTC อย่างน้อยจนถึงสิ้นปีนี้
นักวิเคราะห์อีกหลายคนเห็นด้วยกับ JPMorgan Chase ผู้มองแนวโน้มราคาบิทคอยน์อย่างสดใสไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เตือนให้นักลงทุนระมัดระวังเป็นอย่างมากในช่วงต้นปี 2020 เพราะเป็นช่วงที่วัฎจักรสี่ปีของบิทคอยน์จะสิ้นสุดลง ด้วยเหตุนี้ นายไมเคิล เบอร์รี ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Scion Capital ผู้เคยทำนายวิกฤติสินเชื่อเมื่อปี 2007 จึงได้วางแผนเกี่ยวกับการเปิดตำแหน่งชอร์ทหรือขายบิทคอยน์
Finder ได้จัดทำแบบสำรวจกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมฟินเทค 50 ราย จาก Cypherpunk Holdings, Bitcoin Reserve, Kraken, Arcane และ CryptoQuant รวมถึงอาจารย์มหาวิทยาลัย 7 ท่านจากมหาวิทยาลัยในเอเชีย ยุโรป และออสเตรเลีย พวกเขามองว่า อัตราแลกเปลี่ยน BTC จะทำระดับสูงสุดที่เหนือ $80,000 เล็กน้อยภายในสองเดือนข้างหน้า และราคาบิทคอยน์จะปิดท้ายปีที่บริเวณ $71,400
ระดับต่าง ๆ ที่ระบุโดยผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ปรากฏว่าต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จาก Standard Chartered และ Bloomberg เป็นอย่างมาก ซึ่งนักวิเคราะห์กลุ่มนี้เชื่อว่าราคาบิทคอยน์จะขึ้นไปเกิน $100,000 ในปีนี้
นายวิลลี วู นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังชี้ว่า ระยะถัดไปของตลาดบิทคอยน์จะมีความผันผวนมากกว่าช่วงตลาดกระทิงที่ผ่านมา โดยชี้ถึงกรอบระยะเวลาที่ยาวนานขึ้นสำหรับวัฎจักรรอบนี้
นักวิเคราะห์รายนี้เขียนในโพสต์บนทวิตเตอร์หลายทวีตข้อความเมื่อหนึ่งปีก่อนว่า โมเดลของเขาทำนายราคาเหรียญที่ $200,000 ต่อบิทคอยน์ภายในสิ้นปี 2021 ซึ่งเป็นการคาดการณ์แบบอย่างต่ำ แต่ก็ไม่ตัดโอกาสที่ราคา BTC จะพุ่งขึ้นไปถึง $300,000
นายมาร์ค จัสโก ซีอีโอ Morgan Creek Capital Management ทำนายตัวเลขคล้ายกันกับนายวิลลี วู โดยเขามองว่า ราคาเหรียญนี้อาจพุ่งไปถึงระดับ $250,000 แต่จะไม่เกิดขึ้นในปี 2021 แต่เป็นอีก 5 ปีข้างหน้า และยอมรับว่าเส้นทางสู่ระดับดังกล่าวนี้จะไม่ง่าย
ในระหว่างนี้ ตลาดคริปโตย่อตัวลงเล็กน้อย นักลงทุนที่ระมัดระวังมากที่สุดเริ่มปิดตำแหน่งซื้อ บิทคอยน์ยังถูกเทขายโดยกลุ่มคนที่เข้าซื้อเมื่อช่วงราคาสูงสุดในฤดูใบไม้ผลิ พวกเขาได้กำไรเล็กน้อยและไม่อยากจะเสี่ยงอีกครั้ง ระบบขัดข้องในอัลกอริทึมของตลาดแลกเปลี่ยน Binance ของสหรัฐฯ ก็กระตุ้นความหวาดกลัวเช่นกัน หลังจากราคาทรุดลงมาอย่างฉับพลันถึง 87% แต่การดำเนินงานของตลาดแลกเปลี่ยนและโบรกเกอร์รายอื่น ๆ ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ และราคา BTC/USD ซื้อขายอยู่ที่ $61,000 ณ เวลาที่เขียนบทวิเคราะห์ฉบับนี้ มูลค่ารวมในตลาดคริปโตอยู่ที่ $2.6 ล้านล้านดอลลาร์ และดัชนีครองตลาดคริปโต (Bitcoin Dominance Index) อยู่ที่ 45.94%.ด้านดัชนี Crypto Fear & Greed Index อยู่ในโซนโลภ (Greed) ที่ 75 จุด อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าตลาดมีแรงซื้อมากเกินไป และในความเห็นของนักพัฒนาดัชนีชี้ว่า ยังคงอันตรายที่จะเปิดตำแหน่งขายในสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน
กลุ่มนักวิเคราะห์ NordFX
สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ th.support@nordfx.com และเบอร์โทร 0600035101 #NORDFX #FOREX #TRADE #ข่าวสาร #cryptocurrencynews #News
แชร์
|
แจ้ง / รายงานสินค้า
ให้คะแนนสินค้า
บันทึกความคิดเห็น
กำลังโหลดรีวิว..
เลขที่ประกาศ : 2100058927
2000012545
tom18846
tom18846@hotmail.com
แสดงเบอร์ผู้ขาย
สอบถามผู้ขาย
สินค้าอื่นๆ แนะนำ
https://www.facebook.com/taktaksrinutta/ติวเตอร์ภาษาอังกฤษฝรั่งเศส
200
บาท
https://www.facebook.com/taktaksrinutta/ติวเตอร์ภาษาอังกฤษฝรั่งเศส
200
บาท
รับผลิตปากกา ฟรีสกรีน logo
10
บาท
แนวข้อสอบ ปริญญาโท องค์การเภสัชกรรม
398
บาท
แนวข้อสอบ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ
398
บาท
😄
Emoticons
☕
Objects
🐶
Nature
🏠
Places
⬆
Symbols
😄
😃
😊
😉
😍
😘
😚
😜
😝
😳
😁
😔
😌
😒
😞
😣
😢
😂
😭
😪
😥
😰
😓
😩
😫
😨
😱
😠
😡
😤
😖
😆
😷
😵
😲
😏
🎅
🎃
👻
💀
👿
👽
👾
👲
👳
👮
👷
💂
👶
👦
👧
👨
👩
👴
👵
👱
👼
👸
💃
👫
💏
💑
👯
🎎
💤
👂
👀
👃
💅
💋
👄
👍
👎
👌
👊
✊
✌
🙋
👋
✋
👐
👆
👇
👉
👈
🙌
🙏
☝
👏
💪
💌
💟
💛
💙
💜
💚
❤
💔
💗
💓
💖
💝
💞
💘;
☕
🍵
🍶
🍺
🍻
🍸
🍴
🍔
🍟
🍝
♨
🍛
🍱
🍣
🍙
🍘
🍚
🍜
🍲
🍢
🍡
🍳
🍞
🍦
🍧
🍰
🍎
🍊
🍉
🍓
🍆
🍅
🏈
🏀
⚽
⚾
🎾
🎱
⛳
🎿
🀄
🎯
🏁
🏆
🎌
🎨
🎬
🎤
🎧
🎼
🎵
🎶
🎺
🎷
🎸
💍
💎
💰
💲
💵
💴
🎩
👑
👒
👟
👡
👠
👢
👕
👔
👗
👘
👙
💼
👜
🎀
☔
🌂
💄
🎍
🎒
🎏
🎐
🎄
🎁
🎉
🎈
🎦
🎥
📷
📼
💿
📀
💽
💾
💻
📱
☎
📞
📠
📡
📺
📻
🔈
🔔
📢
📣
🔓
🔒
🔐
🔑
🔎
💡
🛀
🚽
🔨
🚬
💣
🔫
💊
💉
📲
✉
📩
📨
📫
📪
📝
✂
📖
🐶
🐺
🐱
🐭
🐹
🐰
🐸
🐯
🐨
🐻
🐷
🐮
🐗
🐵
🐒
🐴
🐑
🐘
🐧
🐦
🐥
🐔
🐍
🐛
🐙
🐚
🐠
🐟
🐬
🐳
🐎
🐡
🐫
🐩
💐
🌸
🌷
🍀
🌹
🌻
🌺
🍁
🍃
🍂
🌾
🌵
🌴
🌱
🌙
⭐
⚡
☀
🔥
✨
🌟
✴
💨
☁
💧
💦
🌊
✳
⛄
🌀
🌈
🌄
🌅
🌇
🌆
🌃
🏠
🏡
🏫
🏢
🏣
🏥
🏦
🏪
🏩
🏨
💒
⛪
🏬
🏯
🏰
⛺
🏭
🗼
🗻
🗽
🎡
⛲
🎢
🚢
⛵
🚤
🚀
✈
💺
🚉
🚄
🚅
🚃
🚌
🚙
🚗
🚕
🚚
🚓
🚒
🚑
🚲
💈
🚏
🎫
🚥
🚧
⛽
🎓
🎭
⬆
⬇
⬅
➡
↗
↖
↘
↙
⤵
⤴
🆙
🆒
📶
🈁
🈯
🈳
🈵
🉐
🈹
🈺
🈶
🈚
🚻
🚹
🚺
🚼
🚾
♿
🚭
🈷
🈸
🈂
㊙
㊗
🔞
⛔
❎
💢
🐾
🆚
📳
📴
💠
➿
🏧
❌
⚠
❗
❓
❕
❔
⭕
✖
♠
♥
♣
♦
〽
🔱
🔰
🔲
🔳
⬛
⬜
⚫
⚪
🔴
🔵
🔶
🔷
🔸
🔹